วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

Folder Options หาย!!!

ถาม: จู่ๆ Folder Option ที่อยู่ในเมนู Tools ก็หายไปเฉยๆ ในหน้าต่าง Control Panel ก็ไม่มี ไม่แน่ใจว่า ติดไวรัส หรือเปล่า แล้วมีวิธีเรียกคืนมาได้อย่างไร ช่วยแนะนำด้วยครับ

ตอบ: มัลแวร์อย่างพวก Adware, Spyware, Browser Hijacker และ Trojan บางตัวจะไม่ยอมให้ผู้ใช้เปลี่ยน Folder Options ในกรณีนี้ แนะนำให้คุณใช้โปรแกรมสแกนตรวจสอบให้เรียบร้อยเสียก่อน
หลังจากสแกนเรียบร้อยแล้ว แต่ Folder Options ยังไม่ปรากฏขึ้นมาอยู่ดี เป็นไปได้ว่า พวกมันเข้าไปกำหนดค่าใน Registry ให้ยกเลิก (disable) ตัวเลือกนี้ออกไป สำหรับวิธีแก้ไขให้กลับคืนมาดังเดิมทำได้ดังนี้

1. เปิดโปรแกรม Registry Editor (คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์ regedit คลิกปุ่ม OK)
2. ในกรอบด้านซ้ายคลิกเข้าไปที่

HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\policies\Explorer

3. กรอบด้านขวาหากพบว่าคีย์ NoFolderOptions ถูกกำหนดค่าเป็น 1 ให้ดับเบิ้ลคลิกบนคีย์ดังกล่าว แล้วแก้กลับเป็น 0
4. ปิดโปรแกรม Registry Editor




นอกจากเหล่ามัลแวร์ต่างๆ แล้ว โปรแกม TweakUI หรือยูทิลิตี้สำหรับแอดมินบางตัวจะมีการเข้าไปกำหนดไม่ให้แก้ไข Folder Options ได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ คุณจะพบคีย์ NoFolderOptions ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่พบว่า มีคีย์นี้อยู่ใน Registry หรือมันได้รับการกำหนดให้เป็น 0 อยู่แล้ว นั่นแสดงว่า โมดูลในส่วนจัดการ Folder Options ของ Windows XP ถูกทำลาย หรือหายไป ซึ่งวิธีแก้ไขจะยุ่งยากกว่านี้มาก ยังไงก็เอาใจช่วยให้คุณแก้ไขกลับคืนมาได้สำเร็จนะครับ

ทิปจาก http://www.arip.co.th/

Defrag อย่างไร? ไม่ให้สะดุด!!!

ไอเดียของวินทิปครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเดือนที่แล้วในคอลัมน์ Smart Tip พูดถึงปัญหาการทำ Defragment ที่เริ่มต้นใหม่เอง เมื่อมันทำงานไปได้ 10-20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม เราพบว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ได้นำเสนอไปแล้ว หากผู้ใช้ต้องการให้ Defragmenter ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ในขณะที่ไอเดียของการแก้ข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี้ Defragmenter สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตี้ตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว

เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้ เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง

บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง



เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิกขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิกแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟลกนานแค่ไหน พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพือให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง คราวนี้หลังจากที่ทำ defrag เสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ อ้อ...ยังไงก็อย่าลืมทำขั้นตอนที่แนะนำให้ Smart Tip ก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ

ทิปจาก http://www.arip.co.th/

10 คำถามยอดฮิต ก่อนหันมาใช้ XP 64 บิท

สำหรับผู้ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 64 บิท แต่สเปกไม่สูงมากนัก แนะนำให้ใช้ XP 64 บิท ดูจะเหมาะสมกว่า เพราะตัววินโดวส์ใช้ทรัพยากรไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับ Windows Vista วินโดวส์ 64 บิท ตัวจริงที่กำลังจะตามออกมา ต่อไปนี้เป็นคำถามที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ XP 64 บิทตัวนี้

1. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันวินโดวส์ XP 64 บิทได้?
แน่นอนว่า XP 64 บิท ก็ต้องรันบนซีพียู 64 บิทเช่นเดียวกัน ดังนั้นซีพียูที่เป็น 32 บิทหมดสิทธิ์ครับ ต่อไปนี้เป็นรายชื่อซีพียูที่สามารถรันวินโดวส์ XP 64 บิท
• AMD Athlon 64, Athlon 64 FX
• AMD Mobile Athlon 64, Turion 64
• AMD Opteron
• Intel Xeon (เฉพาะรุ่นที่มีเทคโนโลยี Intel EM64T)
• Intel Pentium 4 (เฉพาะรุ่นที่มีเทคโนโลยี Intel EM64T)

2. ซีพียู Intel Itanium สามารถใช้วินโดวส์ XP 64 บิทได้หรือไม่?
ไม่ได้, ถึงแม้ว่า Itanium จะเป็นซีพียู 64 บิท แต่คุณสมบัติแตกต่างจากซีพียูกลุ่มที่แนะนำไป ถ้าจะรอ XP 64 บิทที่รองรับซีพียู Itanium คงต้องรออีกนาน แนะนำให้ใช้ Windows Server 2003 Enterprise Edition จะดีกว่า

3. โน้ตบุ๊ค Centrino สามารถใช้วินโดวส์ XP 64 บิทได้หรือไม่?
ไม่ได้, เพราะ Centrino ใช้ Pentium M เป็นซีพียู ซึ่ง Pentium M เป็นซีพียู 32 บิท จึงไม่สามารถใช้งานวินโดวส์ XP 64 บิทได้

4. XP 64 บิท เพิ่มแรมได้เท่าไรครับ?
เพิ่มได้เต็มที่ 128 GB ครับ ถ้าเป็นวินโดวส์ XP 32 บิทเดิมจะได้ไม่เกิน 4 GB

5. ทำไม XP 64 บิท ถึงมีแต่แบบ Professional Edition แบบ Home Edition ไม่มีหรือ?
ไม่มีครับ, ณ เวลานี้ต้องบอกตรงๆ ว่า XP 64 บิท จะมุ่งเน้นเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานเป็นหลัก ซึ่งก็คือกลุ่ม Professional นั่นเอง ส่วนผู้ใช้ตามบ้าน หรือ XP 64 บิทแบบ Home Edition ซึ่งเน้นการใช้งานที่ง่าย เสียบปุ๊บเห็นปั๊บ มีไดรเวอร์รองรับมาก ไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดไดรเวอร์เอง และมีฟังก์ชั่นวินโดวส์ไม่มากจนสร้างความยากในการใช้งาน ยังเป็นเรื่องที่ยังทำไม่ได้ในตอนนี้ เพราะไดรเวอร์แบบ 64 บิท ในตอนนี้ยังน้อยอยู่

6. XP 64 บิทติดตั้งยากไหม?
ถ้าคุณเคยติดตั้ง XP ธรรมดา การติดตั้ง XP 64 บิทก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะทุกขั้นตอนจะเหมือนเดิม แต่ในช่วงต้นของการติดตั้งจะมีการตรวจสอบซีพียูก่อนว่าเป็นซีพียูแบบ 64 บิท หรือไม่ ถ้าซีพียูของคุณไม่ใช่ 64 บิทการติดตั้งก็จะหยุดลงทันที ไม่สามารถทำการติดตั้งต่อไปได้

7. ทำไมลง XP 64 บิทแล้ว ลงไดรเวอร์เดิมไม่ผ่าน?
ไดรเวอร์แบบ 32 บิทเดิม เอามาใช้ใน XP 64 บิทไม่ได้นะครับ ต้องเป็นไดรเวอร์ตัวใหม่แบบ 64 บิทเท่านั้น แนะนำว่าคุณต้องไปดาวน์โหลดไดรเวอร์ 64 บิทจากบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์นั้นๆ

8. ไม่มีไดรเวอร์ 64 บิทของเครื่องพรินเตอร์ ทำยังไงดี?
แนะนำง่ายๆ ให้โทรไปถามที่ศูนย์ที่ขายพรินเตอร์ตัวนั้น ถามว่ามีไดรเวอร์แบบ 64 บิทของพรินเตอร์ยี่ห้อนั้น รุ่นนั้นหรือยัง หรืออีกวิธีหนึ่งถ้าสะดวกก็เข้าไปดาวน์โหลดเองจากอินเทอร์เน็ต ในเว็บไซต์ของผู้ผลิตพรินเตอร์นั้นๆ

9. ทำไงดีครับผมจะอัพเดต BIOS แต่โปรแกรมอัพเดตมันทำงานบนวินโดวส์ 32 บิท
ต้องรอครับ รอให้ผู้ผลิตโปรแกรมอัพเดต BIOS ตัวนั้น พัฒนาโปรแกรมที่ทำงานบนเครื่อง 64 บิทได้ หรือถ้ารอไม่ได้ ก็อาจจะลง 2 ระบบ เป็นแบบ Dual Booting แล้วบู๊ทวินโดวส์ 32 บิทเพื่อรันโปรแกรมอัพเดต BIOS แต่ถ้าไม่อยากลงเครื่องแบบ Dual Booting อาจจะใช้วิธีนี้ก็ได้แต่ยากหน่อย คือ เปิดเครื่องเอาฮาร์ดดิสก์ตัวเดิมออก ใส่ฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ลงไป ลงวินโดวส์ 32 บิท แล้วรันโปรแกรมอัพเดต BIOS จากนั้นก็เอาฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ออก ใส่ตัวเดิมคืน ก็จะได้ระบบ Single Booting แถมอัพเดต BIOS เรียบร้อย

10. XP 64 บิท กับ XP ธรรมดาต่างกันมากไหมครับ?
ต่างกันเล็กน้อยครับ คือ XP 64 บิทก็คือ XP ธรรมดาที่มีการปรับแต่งค่าให้ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด (เซอร์วิสไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้ ระบบจะทำการปิดไว้ เมื่อผู้ใช้ต้องการใช้จึงสั่งเปิดเซอร์วิสนั้นเอาเอง ซึ่งวินโดวส์ 2003 ก็ใช้วิธีการปรับแต่งค่าเช่นนี้เหมือนกัน) แต่ใน XP ธรรมดาการปรับแต่งค่าจะเปิดเซอร์วิสที่น่าจะเรียกใช้ไว้เสมอ ทำให้ผู้ใช้ไม่ยุ่งยากในการเปิดเซอร์วิสขึ้นมาใช้งานเอง แต่ก็ต้องแลกกับทรัพยากรที่เสียไปมากเกินจำเป็น
นอกจากนี้ในส่วนของระบบไฟล์ หน้าตาวินโดวส์ เมนูสตารท์ โปรแกรมพื้นฐานที่มีใน XP ธรรมดา ใน XP 64 บิทก็มีเช่นเดียวกัน

ทิปจาก http://www.successmedia.com/

Back Up สำคัญอย่างไร ??

การสำรวจข้อมูลและไฟล์ระบบเอาไว้แต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งที่ควรทำหลังจากที่คุณได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ไปสักระยะ เพราะมันจะไม่ทำให้คุณต้องมานั่งคอตกในยามที่วินโดวส์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจเข้าไปเอาข้อมูลคืนได้!!!
ปัญหาระบบวินโดวส์ล่มข้อมูลสูญหาย ไวรัสกล้ำกรายเป็นสิ่งที่เราพบเห็นกันจนชินตา ในปัจจุบันซึ่งผู้ใช้บางคนที่ไม่ทราบวิธีแก้ปัญหาก็ได้แต่ยกเครื่อง ไปที่ร้านซ่อมคอมพ์ และเสีย 300 บาท เพื่อรักษาทุกอาการ! โดยวิธีการปัญหาของร้านพวกนี้ก็คือ หากเข้าไปเอาข้อมูลที่คุณต้องการไม่ได้พวกเขาก็มักจะบอกคุณว่า "ต้องลงวินโดวส์ใหม่" จากนั้นก็จัดการโคลนนิ่งวินโดวส์พร้อมโปรแกรมต่าง ๆ จากฮาร์ดดิสก์ตัวหลักที่ใช้ประจำ ไปยังฮาร์ดดิสก์ของคุณ ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ก็ได้วินโดวส์พร้อมโปรแกรมคืนมา แต่ทว่าโปรแกรมประเภท Anti Virus หากโคลนนิ่งมาแล้ว เมื่อถึงเวลาต้องอัพเดตแพตช์มันจะไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ พอมีไวรัสใหม่ๆ มาโปรแกรม Anti Virus จะไม่มีไฟล์แพตเทิร์นของไวรัสพวกนี้ ผลที่ตามมาก็คือคอมพิวเตอร์ของคุณจะไร้ซึ่งภูมิคุ้มกัน และหากติดไวรัสเข้าละก็ ปัญหาระบบวินโดวส์ล่ม ข้อมูลสูญหาย ก็คงจะเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

มาแบ็กอัพข้อมูลกันเถอะ
คุณพร้อมหรือยังสำหรับการแบ็กอัพ? เพราะความเสี่ยงที่ข้อมูลและไฟล์ระบบได้รับความเสียหายจะลดลงหากคุณเริ่มต้นแบ็กอัพตั้งแต่ตอนนี้ โดยที่ไม่ต้องมองหาเครื่องมือหรือโปรแกรมภายนอกมาช่วยเลยก็ยังได้ เพราะวินโดวส์ได้เตรียมมาให้คุณแล้ว หากจะถามว่าการแบ็กอัพข้อมูลและไฟล์ระบบมีประโยชน์อย่างไรบ้าง? อย่างแรกเลยก็คือ คุณสามารถเรียกข้อมูลกลับคืนมาได้ทุกเวลาที่ต้องการ และอย่างที่สองนั้นหากวินโดวส์เกิดล่มขึ้นมาจริง ๆ คุณก็มีวิธีรับมือกับมันด้วยตัวเอง นอกจากนั้นหากคุณมั่นแบ็กอัพข้อมูลอยู่เป็นประจำแล้วละก็ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณก็จะมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น นั่นก็เพราะว่าคุณได้เตรียมการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเอาไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว...

ก่อนอื่นเราไปดูกันว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่คุณใช้นั้น มีเครื่องมือหรือยูทิลิตี้อะไรบ้างสำหรับการแบ็กอัพข้อมูลและเรียกาคืนกลับมา เมื่อต้องการซ่อมแซม (บทความตอนนี้จะอ้างอิงถึงผู้ใช้ Windows XP เป็นหลัก)

System Restore
หนึ่งในโปรแกรมแบ็กอัพและรียกข้อมูลกลับคืน ที่หลายคนมักจะไม่ค่อยใช้งานนั้น ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่า "ไม่รู้จะใช้ทำอะไร" เพราะไม่ทราบวิธีการใช้งานนั่นเอง! ซึ่งอันที่จริงแล้วโปรแกรม System Restore ใช้งานง่ายกว่าที่คุณคิดซะอีก เพราะวินโดวส์จะสร้างจุดสำหรับแบ็กอัพเพื่อใช้ในการเรียกข้อมูลกลับคืนให้เป็นระยะๆ อยู่แล้ว (อัตโนมัติ) ดังนั้น หากวินโดวส์มีปัญหาคุณก็สามารถใช้การ Restore ได้ทันที นอกจากนั้นหากคุณต้องการกำหนดจุดแบ็กอัพเองเพื่อเพิ่มความถี่ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ต้องเรียนรู้เทคนิคอีกนิดหน่อย ซึ่งไม่ยากเกินไปสำหรับคุณแน่นอน

Backup Utility
สำหรับโปรแกรมตัวที่สองนี้ ค่อนข้างมีสมรรถนะการทำงานที่สูงพอตัว เพราะไมโครซอฟท์ได้เลือกใช้ซอฟต์แวร์ของ VERITAS ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านซอฟต์แวร์โซลูชันและดาต้าเบส Backup Utility ช่วยให้ผู้ใช้ที่ต้องการแบ็กอัพข้อมูลและไฟล์ระบบสามารถทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีโหมดการทำงานอย่าง Wizard ที่เพียงแคคลิ้กเมาส์ตามก็ได้เช่นกัน ซึ่งโปรแกรมก็ได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ มาให้เพียบ รับรองว่าลองใช้ดูแล้วจะรู้ว่าดีจริง!
คุณสามารถใช้โปรแกรม Backup Utility โดยไปที่ Start->All Programs -> Accessories -> System Tools ->Backup

แบ็กอัพข้อมูลด้วยอุปกรณ์ฮาร์แวร์
สำหรับการแบ็กอัพข้อมูลโดยใช้อุปกรณ์นั้น แน่นอนว่าย่อมลดความ เสี่ยงจากการที่ข้อมูลอาจสูญหายได้อีกขั้น นั่นก็เพราะคุณได้สำรองข้อมูลเอาไว้มากกว่าหนึ่งที่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ในฮาร์ดดิสก์เพียงอย่างเดียวอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแบ็กอัพข้อมูลในปัจจุบันก็ได้แก่ฮาร์ดดิสก์แบบติดตั้งภายนอกผ่านพอร์ต USB เทปแบ็กอัพ ที่มักจะใช้กับการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ ซิปไดรฟ์ (Zip Drive) เครื่องบันทึก DVD/CD นอกจากนั้นยังมีการใช้แฟลชเมโมรี่ความจุสูง รวมทั้งไมโครไดรฟ์ที่ใช้กับอุปกรณ์โมบายมาแบ็กอัพข้อมูลด้วยเช่นกันซึ่งทำให้ข้อมูลสำคัญๆ ของคุณยังคงถูกรักษาเอาไว้ แม้ฮาร์ดดิสก์หลักของระบบจะได้รับความเสียหายก็ตาม ดังนั้น หากคุณมีงบเหลือพอที่จะซื้ออุปกรณ์แบ็กอัพข้อมูลสักชิ้นก็จะดีไม่น้อย!

น้ำแอปเปิ้ลแบบข้น ดีกว่า แบบใส อย่างไร

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยดังในโปแลนด์พบสารต้านอนุมูลอิสระ "โพลีฟีนอล" ต้าน โรคหัวใจ มะเร็งที่พบได้ในไวน์แดง ลูกเบอร์รี่และช็อกโกแลตดำ มีอยู่มากในน้ำแอปเปิ้ล แต่ถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำแอปเปิ้ลข้นซึ่งมีสารต้านอนุมูลมากกว่าน้ำใสสองเท่า

ทีมวิจัยได้ทดลองเปรียบเทียบสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำแอปเปิ้ล 4 ประเภท และพบว่า น้ำ แอปเปิ้ลข้นมีปริมาณสารโพลีฟีนอลสูงที่สุดเนื่องจากแอปเปิ้ลข้นมีเนื้อ มากกว่า ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระมีความเข้มข้น

ดร.เจน โอซมิลานสกี้ หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า ผลการทดลองในลักษณะเดียวกันนี้ยังปรากฏในผลไม้กลุ่มอื่นที่ทีมได้ทำการวิจัย กล่าวคือ สตรอเบอร์รี่ข้นมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าสตรอเบอร์รี่สีใส จึงเชื่อว่า น้ำผลไม้จากผลไม้สีข้นนั้น มีสารโพลีฟีนอลและเพ็กตินมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้การรับประทานน้ำแอปเปิ้ลสีข้นจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า

งาน วิจัยก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า สารโพลีฟีนอลที่มีอยู่ในผักและผลไม้ช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ อาทิ มะเร็ง โดยการดูดซับอนุมูลอิสระที่จะเข้ามาทำอันตรายเซลล์ในร่างกาย

แม้ ว่าแอปเปิ้ลมีสารโพลีฟีนอลอยู่จำนวนมาก แต่ก็อาจสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระไประหว่างกระบวนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานผลิตน้ำแอปเปิ้ลนิยมผลิตแอปเปิ้ลสีใส โดยใช้เอนไซม์ย่อยสลายโมเลกุลเพ็กตินในผนังเซลล์ของแอปเปิ้ลและปั่นแยกกาก ส่งผลให้ระดับโพลีฟีนอลจะลดลงอย่างมาก

ด้าน นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิจัยอาหารในนอร์ริช กล่าวว่า ผู้บริโภคนิยมดื่มน้ำแอปเปิ้ลใสมากกว่าและสามารถเก็บไว้ได้นาน โดยไม่รู้ว่าสีขุ่นๆ นั้นเป็นเพ็กตินที่มีประโยชน์ในการสร้างไฟเบอร์ต่อร่างกาย

"หากเราใส่ใจในสุขภาพ ควรหันมารับประทานน้ำแอปเปิ้ลที่ไม่ได้สังเคราะห์ให้ใสสะอาด" นัก วิจัยกล่าวและว่า กินแอปเปิ้ลสดๆ ให้ประโยชน์มากกว่าดื่มน้ำแอปเปิ้ล แม้ว่าเกษตรกรจะพัฒนาแอปเปิ้ลพันธุ์ใหม่ที่หวานมากขึ้นฝาดน้อยลง ซึ่งทำให้โพลีฟีนอลน้อยลงก็ตาม

โฆษกสมาคมโภชนาการอังกฤษกล่าวว่า มันคุ้มมากถ้าจะเปลี่ยนจากดื่มน้ำแอปเปิ้ลใสมาเป็นน้ำแอปเปิ้ลข้น ซึ่งได้สารต้านอนุมูลอิสระมากเป็น 2 เท่าถึงกระนั้นก็ควรกินแอปเปิ้ลสดด้วยเพราะนอกจากจะได้โพลีฟีนอลแล้วยังได้ไฟเบอร์อีกด้วย

ที่มา...หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2550

http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_food/a_fd_3_00t.asp?info_id=329

นานาประโยชน์จากมะนาว


ถ้าพูดถึง "มะนาว" ทุกคนคงจะนึกถึงความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด
แต่หารู้ไม่ว่า"มะนาว" ผลกลมๆเล็กนี้ นอกจากจะนำไปเป็นเครื่องปรุงรสให้อาหารจานเด็ดหลากหลายเมนูแล้ว ยังมีประโยขน์บำรุงสุขภาพมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ช่วยแก้สิว
นำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต้มบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่

ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ชะลอการเกิดรอยตีนกา
นำน้ำมะนาว น้ำผึ้ง แป้งสาลี และไข่แดง มาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกบนใบหน้า
ก่อนพอกควรล้างหล้าให้สะอาดเสียก่อน พอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด ทำประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
นำมะนาวมาหั่นเป็นชิ้นๆ(อาจต้องใช้หลายๆผลหน่อย) ใส่ลงในอ่างอาบน้ำ
นอนแช่ตัวสัก 15-20 นาที จะทำให้คุณรู้สึกสบายตัวและยังช่วยลดกลิ่นตัวได้อีกด้วย

บำรุงผม
ใช้น้ำมะนาวลูบผมให้ทั่วหลังสระผมทุกครั้ง ลูบสลับกับการนวดประมาฌ 1 นาที
จากนั้นใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นหุ้มผมไว้สัก 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สามารถช่วยลดรังแค และทำให้ผมเงางามได้อีกด้วย

ฟันขาวสะอาด
นำน้ำมะนาวมาหยดลงบนผ้าชิ้นเล็ก แล้วนำมาถูขัดฟันเป็นประจำ จะช่วยให้ฟันขาว
สะอาดขึ้นได้เพราะกรดในมะนาวจะช่วยขจัดแบคทีเรียในปากได้

^^

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

หุ่นดี ได้ ด้วย Hula Hoop (ฮูลาฮูป)

คุณ รู้จักไหม Hula hoop แบบใหม่ ใหญ่กว่าเดิม น่าสัมผัส

ผอมสวย หุ่นดี ด้วยการออกกำลังกาย ได้ผลดี+สุขภาพที่ดีตามมา

เพียงแค่คุณ ใช้เวลา กับมันเพียง วันละ 1 ชั่วโมง เท่านั้น

คุณก็สามารถ หุ่นดี ได้ ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย

อ่านต่อ...http://www.mado-gun.co.cc/