วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

Defrag อย่างไร? ไม่ให้สะดุด!!!

ไอเดียของวินทิปครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเดือนที่แล้วในคอลัมน์ Smart Tip พูดถึงปัญหาการทำ Defragment ที่เริ่มต้นใหม่เอง เมื่อมันทำงานไปได้ 10-20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม เราพบว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ได้นำเสนอไปแล้ว หากผู้ใช้ต้องการให้ Defragmenter ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ในขณะที่ไอเดียของการแก้ข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี้ Defragmenter สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตี้ตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว

เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้ เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง

บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง



เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิกขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิกแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟลกนานแค่ไหน พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพือให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง คราวนี้หลังจากที่ทำ defrag เสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ อ้อ...ยังไงก็อย่าลืมทำขั้นตอนที่แนะนำให้ Smart Tip ก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ

ทิปจาก http://www.arip.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น: